จากอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย สู่ ‘Gen ยัง Active หัวใจนักปั่น’ ไทม์ไลน์ชีวิตสุดแอคทีฟของ คุณอุ้ย - รศ. ดร.กนิษฐา นาวารัตน์ ช่างน่าตื่นเต้นโลดโผน เหมือนไลฟ์สไตล์การปั่นจักรยานที่โลดแล่นไปตามท้องถนนอย่างไม่รู้จบ มาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้มุมมองชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยแพสชันในทุกแง่มุม
เริ่มเข้าวงการปั่นจักรยานได้ยังไง?
“ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยปั่นจักรยานเลย เพราะแม่ดุมาก ไม่ให้ทำอะไรโลดโผน คราวนี้พอใกล้เกษียณเริ่มคิดแล้วว่าถ้าว่างแล้วจะทำอะไรดี บังเอิญดูทีวีมีงานจักรยานที่น่าสนใจมาก มีคนปั่นจักรยานเป็นขบวน ใส่เสื้อสวยงามเป็นทีม เห็นแล้วประทับใจมาก เพื่อนสนิทก็ให้จักรยานเป็นของขวัญวันเกิดพอดี พอได้มาปุ๊บ เราก็ปั่นออกไปเลยทั้ง ๆ ที่โรลม้วนผมยังเต็มหัวอยู่นี่ล่ะ (หัวเราะ) ลูกสาวก็นึกว่าเราเคยปั่นมานานแล้ว แต่จริง ๆ นี่เป็นครั้งแรก
“ครั้งนึงที่งานอุ่นไอรัก วันนั้นฝนตก มีโอกาสได้ไปปั่น คนเป็นหมื่นเลยนะ แต่โชคชะตาพาไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มก็เลยได้รู้จักกัน ฝากเนื้อฝากตัว เลยเป็นกลุ่มแก๊งจักรยาน ไปปั่นที่ Sky Lane สุวรรณภูมิ ก็ได้เจอเพื่อนใหม่ ตอนนี้มี 5-6 กลุ่ม
“ช่วงแรกก็ไปปั่นที่สวนรถไฟ สวนลุม บึงหนองบอน จากนั้นเริ่มออกต่างจังหวัด ไปเมืองกาญจน์ สวนผึ้ง จันทบุรี หลัง ๆ ชักเริ่มปีกกล้าขาแข็งไปปั่นที่ต่างประเทศ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไปเกาหลีมา 2 รอบ เลียบทะเลฝั่งตะวันออกไปถึงชายแดนเกาหลีเหนือเลยนะ เดี๋ยวพฤษภาคมจะไปปั่นที่ปากีสถานกับเพื่อน แถวหิมาลัย พอทักษะเราเพิ่มขึ้นก็จะสนุกกับการแพลนทริปแบบนี้”
เรียกว่าเป็นไลฟ์สไตล์เกษียณสุขที่แอคทีฟสุด ๆ ต่างจากตอนทำงานมากน้อยขนาดไหน?
“เราทำงานหนักมาก เรียกว่าไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย ตอนนั้นน้ำหนัก 60 กว่ากิโลฯ พอมาปั่นจักรยาน ภายในปีเดียวลดไป 8 กิโลฯ แล้วสมัยทำงานแต่งตัวต้องแบบคุณนาย ออกงาน ชุดผ้าไหมใส่สูท ตอนนี้ไม่ใช่เลย เป็นแนวสปอร์ต จะเข้า Bike Shop ซึ่งชอบมาก เพราะเป็นคนชอบแต่งตัว มีหลายแบรนด์ดีไซน์สวย ใส่แล้วรูปร่างดีดูกระชับ จัดเต็มตลอด สนุกมาก แว่นตามีไม่รู้กี่อัน หมวกมีไม่รู้กี่ใบ เสื้อนี่มีทุกสี (หัวเราะ)”
เห็นว่ามีเพจ Madame Bike ด้วย เป็น side project ที่อยากแชร์เรื่องอะไร?
“เริ่มจากเราอยากให้คนรุ่นเดียวกันโดยเฉพาะผู้หญิงมาปั่นจักรยานมากขึ้น เพราะสนุกมาก ได้ทั้งออกกำลังกาย ท่องเที่ยว และได้สังคมไปพร้อม ๆ กัน แต่ยังไม่มีเพจไหนที่ออกมาแนะนำ แม้แต่การเลือกแว่น การแต่งตัว การเลือกจักรยาน อย่างเราเริ่มต้นก็เลือกผิด ๆ ถูก ๆ ปั่นแล้วปวดก้นจะทำยังไง ปั่นจนมือชาทำยังไง ตัวเราเองชอบอัปเดตข่าวสาร เลยเอาความรู้เหล่านี้มาแปล เพื่อแชร์ให้ทุกคนเอนจอยไปกับเรา อยากแชร์เป็นวิทยาทานให้อ่านกันแบบฟรี ๆ”
เพราะไลฟ์สไตล์คือแพสชัน นอกจากปั่นจักรยานแล้ว อัปเลเวลความฟิตยังไงต่อ?
“มาเริ่มวิ่ง ฮาล์ฟ มาราธอน ด้วยความที่เราเป็นซิงเกิลมัม ลูกก็โตแล้ว มีการงานที่ดี พ่อแม่ก็เสียชีวิตไปก่อนเกษียณ เลยมีเวลาเป็นของตัวเองเต็มที่ ตกเย็นก็จะออกไปสังสรรค์ ปั่นจักรยาน แล้วก็ได้เริ่มมาวิ่ง ฮาล์ฟ มาราธอน ตอนอายุ 65 ฝึกเป็นปีกว่าจะได้ลงแข่ง ก็สนุกเพราะได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่น ไปวิ่งมาหลายจังหวัด ทั้งมิดไนท์รันที่บุรีรัมย์ ล่าสุดไปวิ่งที่สิงคโปร์ แต่จริง ๆ ชอบปั่นจักรยานมากกว่า การวิ่งต้องอาศัยการซ้อม แต่การปั่นจักรยานเราทำได้เรื่อย ๆ มันสนุกกว่า ไปได้ไกลกว่า ได้ไปลัดเลาะดูวิวด้วย”
ไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉงแบบนี้ แข็งแรงกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไหม?
“จะบอกเพื่อนเสมอว่า จริงๆ คนเรามี 3 อายุด้วยกัน คือ Chronological Age ซึ่งเป็นวันเดือนปีเกิด แก้ไขไม่ได้, Physical Age รูปร่างภายนอก อย่างบางคนอายุ 40 กินเหล้าเยอะ นอนดึก ผมหงอกเพราะความเครียด ก็จะดูโทรมเหมือนคนอายุ 60 บางคน 60 แต่สุขภาพจิตดี สุขภาพแข็งแรง ก็จะดูดีกว่าคนอายุ 60 ทั่วไป และ Emotional Age มีทฤษฎีที่ชื่อว่า Inner Child ใจต้องมีความเป็นเด็ก อย่างพี่คือเห็นชิงช้าไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าหา (หัวเราะ) 3 อย่างนี้ ทุกคนมีเหมือนกันหมดแต่จะมีไม่เท่ากัน ต้องเป็นเรื่องที่ทุกคนสร้างด้วยตัวเอง”
ซีเรียสไหมคะ กับการที่รุ่นหลาน ๆ เรียกเราว่าผู้สูงอายุ มี Mind Set กับคำนี้อย่างไร
“ต้องยอมรับสภาพเนอะ อย่าไปถือสา เพราะเราคิดว่าใจเรายังเด็กอยู่ เรายังเข้ากับรุ่นน้องได้ ต้องทำตัวให้น่านับถือ เรื่องอารมณ์ก็สำคัญ ต้องไม่ใช่อารมณ์คนแก่หงุดหงิดง่าย แบบนี้ไม่ได้ ต้องปรับอารมณ์ให้เป็น ต้องมี mind set ถ้ามีปัญหาต้องมูฟออนให้เป็น อันนั้นเราก็จะเรียนรู้จากทักษะชีวิตที่เราผ่านชีวิตทั้งหลายมา ต้องดูดีเสมอ ต้องอารมณ์ดี ถ้าอารมณ์ไม่ดีต้องอยู่บ้าน (หัวเราะ) เราต้องคิดบวก ใคร ๆ ก็อยากคบ
“การปั่นจักรยานก็เช่นกัน พอสนุกเราก็จะขยันไปปั่น เหมือนไปสังสรรค์ด้วย ฝึกทักษะด้วย ตอนหลังเริ่มหัดเล่น IG ก็สนุกได้เรียนรู้อะไรเยอะ ทั้งเพลงต่าง ๆ เทคนิคการถ่ายภาพ คือเวลาเยอะก็จะหาอะไรทำ ก็จะไม่เป็นโรคซึมเศร้าอย่างคนอื่นในวัยเดียวกัน”
บางคนกายใจไม่แข็งแรงเท่าสมัยสาว ๆ ไม่สดใสเหมือนเดิม มีทริคการเสริมสร้างกำลังใจอย่างไร?
“เราจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวตลอด เขาก็จะมองเราเป็นแรงบันดาลใจ หลาย ๆ คนชมว่าทำไมดูสาวกว่าตอนทำงาน ตอนทำงานดูอ้วนฉุ คงเป็นเพราะรูปร่างเราเพรียวขึ้น ตอนนี้น้ำหนักลดลงไป 8 กิโลฯ หน้าตาก็ดูสดใส เพราะไม่ต้องทำงานให้เครียด ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองแล้ว เอนจอยชีวิตได้เต็มที่ ก็จะออกที่หน้าตา ออกที่รูปร่าง ออกที่การพูด ดูคึกตลอด ดูร่าเริง คนจะชมว่าสาวขึ้น เราฟังแล้วก็แฮปปี้ แต่มันต้อง work on it ไม่ได้มาง่าย ๆ ตราบใดที่เราชอบ เรามีแพสชันก็คือทำได้ทุกอย่าง ดังนั้นการอย่าไปหม่นหมอง ลุกมาออกกำลังกาย ดูแลตัวเองให้ดูดี”
ถ้ามีเพื่อน ๆ วัยเดียวกันอยากลุกขึ้นมาปั่นจักรยาน ต้องเริ่มจากอะไร?
“ทุกอย่างเริ่มที่ใจพร้อม แพสชันต้องมาก่อน แล้วมาเริ่มหัดไปด้วยกัน บางคนปั่นมาตั้งแต่เด็ก ปั่นเก่งกว่าเราด้วยซ้ำไป ก็จะมีสนามเล็ก ๆ ให้ลองปั่นก่อนได้ แต่ต้องมีวินัย ต้องอดทน แล้วการปั่นเป็นกลุ่มต้องใช้สมาธิเยอะมาก ต้องดูเพื่อนข้างหน้าว่าเป็นยังไง สปีดต้องเท่ากัน ไปด้วยกัน ไปพร้อมกัน เป็นการฝึกสมาธิที่ดีอีกแบบ”
ทุกวันนี้ความสุขของคุณอุ้ยคืออะไร?
“ปีนี้อายุ 68 ยังสุขภาพดี ยังอยากไปปั่น อยากทำนู่นนี่นั่น ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่อยากติดเตียง ความสุขมันเรียบง่ายมากนะ แค่มีลูกที่ดี เพื่อนที่ดี สุขภาพที่ดี ทั้งหมดนี้คือความสุขที่มันเปล่งประกายออกมาจากใบหน้าของเรา Happiness is the best makeup!” คุณอุ้ยส่งท้ายด้วยรอยยิ้ม