line
เมนู
Gen ยัง Active ทอล์ค

นิยามความรักไม่มีวันหมดอายุของ หม่อมหลวงอุบลพรรณ (ภาณุมาศ) - คุณกรัท สุขุมวาท

ต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยความสดใสของคู่รักวัย 50+ ที่มีความสุขกับทุกโมเมนต์ในชีวิต
แชร์บทความนี้
line
line
line

ให้ทุกวันเป็นวาเลนไทน์ไม่เกินจริงเมื่อเราเดินทางไปพูดคุยกับ คุณปั๊ก-หม่อมหลวง อุบลพรรณ (ภาณุมาศ) สุขุมวาท และคุณอ๊อด-กรัท สุขุมวาท คู่รักนักสะสมที่เก็บเอาความประทับใจของสิ่งต่าง ๆ มาประดับไว้ในคอลเลกชันส่วนตัว โดยครั้งนี้เรามาพูดคุยกันถึงเรื่องมุมมองความรัก การเติมเต็มความรักให้กันและกันเหมือนวันแรกรัก เพราะสำหรับผู้สูงอายุแล้ว เมื่อถึงวัย 50+ ที่ลูก ๆ ดูแลตัวเองได้ ก็ถึงเวลาที่อยากกลับมาใส่ใจความรู้สึกของตัวเองและคู่ชีวิตมากขึ้น เพื่อเติมความรักให้กันและกัน

เพราะเชื่อว่า ‘รักเรามีเรื่องเล่าเสมอ’ ไทม์ไลน์ความรักของคุณอ๊อดคุณปั๊กเป็นอย่างไรคะ คบกันนานไหมกว่าจะลงเอยกัน?

คุณปั๊ก : เราสองคนเจอกันที่ทำงานค่ะ แล้วมันตลกมากซึ่งเล่าให้หลายคนฟังจนถึงทุกวันนี้ จำได้แม่นเลยว่าวันนั้นมีหมอดูมาที่ออฟฟิศบอกว่าจะเจอเนื้อคู่เร็ว ๆ นี้ ขาว สูง โปร่ง เป็นวิศวกรหรือหมอ แต่ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบ เราก็ฟังไปอย่างนั้นล่ะ พอกลางวันกำลังจะไปทานข้าวเที่ยงก็ขับรถออกไป พี่อ๊อดเขาเดินข้ามถนนกำลังจะไปแคนทีนเหมือนกัน แล้วน้องในรถก็แซวว่า นี่ไง! เนื้อคู่พี่ปั๊กมาแล้ว! ขาว สูง โปร่ง วิศวกร ก็ไม่น่าเชื่อว่าได้แต่งงานกันจริง ๆ (หัวเราะเขิน)

คุณอ๊อด : ตอนนั้นผมเป็นวิศวกรจบใหม่เพิ่งกลับจากเมืองนอก ก็ต้องไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคล เขาอยู่ฝ่ายบุคคล ครั้งแรกที่เจอกันพูดเลยว่าเขาเป็นคนที่คุยเก่งมาก ๆ ผมน่ะคิดอยู่ในใจว่า โอ้โห เกิดมาไม่เคยเจอใครคุยเก่งขนาดนี้ (ยิ้ม) แทนที่ผมจะไปรายงานตัวกลายเป็นว่าผมไปนั่งฟังเขาพูดมากกว่า (หัวเราะ) ก็คิดอยู่ในใจว่าคนนี้น่ารักดี พูดอะไรแบบตรง ๆ พูดออกมาแบบไม่มีอะไรซ่อนเร้น ตอนนั้นเราทั้งคู่ก็ 20 กว่า ๆ คิดว่าอย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้ว รู้สึกอยากเข้าออฟฟิศ อยากไปทำงาน รู้สึกสดชื่น

เมื่อคุณอ๊อดพูดจบประโยคนี้คุณปั๊กถึงกับหัวเราะร่า

คุณปั๊ก : เจอกันแล้วมันปิ๊งกันเลยนะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ตอนแรก ๆ ก็เหมือนเพื่อนแหล่ะ ก็หลายปีกว่าจะชอบกัน ไม่นานก็แต่งงานกัน กับพี่อ๊อดนี่เข้ากันได้ทุกอย่าง ตอนนั้นพวกน้อง ๆ ยังแซวว่า นั่นไง เนื้อคู่พี่ปั๊ก ๆ เราก็ยังขำจนทุกวันนี้ เจอใครก็เล่าให้ฟังเรื่องนี้ แล้วก็คือเนื้อคู่จริง ๆ คือพอมาแต่งงานอยู่ด้วยกันแล้วคือคนนี้เลย ต้องคนนี้แหล่ะ

คุณอ๊อด : ผมก็รู้สึกเหมือนกัน เหมือนเขาเจอเรา แค่นี้เขามีความสุข แบบไม่ต้องเอาอะไรไปให้ แค่ได้เจอกันก็ดีใจแล้ว

คุณปั๊ก : ด้วยความที่เขาเป็นคนดี ปั๊กรู้ ปั๊กสัมผัสได้ ปั๊กก็เป็นห่วง เพราะว่าช่วงนั้นเขาเพิ่งมาใหม่ ๆ เขาก็ยังไม่อยากจีบเรา อยากเจอคนนั้นคนนี้ เราก็เป็นห่วง กลัวว่าจะเจอคนไม่ดี กลัวคนมาจับ ก็เลยไปเป็นแม่สื่อให้เลย หาคนที่คิดว่าเหมาะสมให้เขา แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะจีบเราหรือเปล่า แต่เราก็ชอบ ๆ แต่เขาไม่มาจีบเราซะที (หัวเราะ) ก็บอกว่าเดี๋ยวพาไปจีบเพื่อน ปรากฏเขาไม่ชอบเพื่อน กลายมาเป็นชอบเราแทน (ยิ้ม)

สารภาพรักกันตอนไหนคะ

คุณปั๊ก : พี่อ๊อดเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูดหรอก เหมือนเรารู้กันไปเอง แล้ววันนึงเขาก็บอกว่า แต่งงานกันไหม? เราก็งง แต่ก็ตอบไปว่า ก็ได้ (หัวเราะ)

คุณอ๊อด : คุยกันสนิทเลยนะ แต่ไม่เคยพูดว่าเรามาเป็นแฟนกันไหม

แอบกระซิบถามนิดนึงว่าทั้งคู่เป็นรักแรกหรือเปล่าเอ่ย

คุณปั๊ก : ไม่ใช่ทั้งคู่ค่ะ ช่วงนั้นต่างคนต่างมีแฟนแล้วนะ เป็นฟีลเพื่อน ๆ กันแต่มานั่งดูแล้วไม่มีใครดีไปกว่าเราสองคน (หัวเราะ)

คุณอ๊อด : ก่อนหน้านั้นผมก็เคยคบคนอื่นมาก่อน คิดว่าเป็นประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้ สอนให้เราพร้อมที่จะมีครอบครัวกับเขานี่ล่ะ เราได้เรียนรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป

คุณปั๊กเป็นผู้หญิงในอุดมคติไหมคะ

คุณอ๊อด : ต้องบอกก่อนว่าเราคุยกันแทบทุกวัน พอได้คุยก็ค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่เข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ จนตอนหลังคือคิดว่าเขาคุยสนุกที่สุดแล้ว อยู่ใกล้แล้วสบายใจไม่ต้องไปเครียดเรื่องอื่น เขาเป็นคนยิ้มเก่งหัวเราะเก่ง ไม่เคยคิดร้ายอะไรกับใคร คิดดีกับทุกเรื่อง จนบางครั้งผมบอกว่าเขาคิดดีเกินไปนะ ผมจะดุใครหรือจะโกรธใคร เขาจะคอยสะกิดผมตลอดเพราะผมเป็นคนที่โกรธคนง่ายกว่าเขาเยอะ ก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป จนตอนนี้ผมใจเย็นลงเยอะ

คุณปั๊ก : พี่อ๊อดเนี่ยจากคนที่ไม่คุยเลยนะ เมื่อก่อนคุยไม่ค่อยเก่ง คุยไม่ค่อยเป็น จนตอนนี้คุยเก่งกว่าปั๊กอีก (หัวเราะ)

สำหรับคุณปั๊กล่ะคะ คุณอ๊อดตรงสเป็กเลยไหม

คุณปั๊ก : พอเจอแล้ว อุ๊ยตายคนนี้น่ารักมากเลยเป็นคนดี ก็ชอบ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็รู้จักคุณพ่อคุณแม่พี่อ๊อดอยู่แล้ว ที่บ้านเนี่ยพอรู้ว่าเป็นพี่อ๊อดปุ๊บคือเปิดรับเลย เพราะปั๊กเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่ก็ค่อนข้างหวง ใครมาจีบก็ค่อนข้างยาก เรายังคิดว่าเราเป็นลูกคุณพ่อเนี่ย ชาตินี้คงไม่ได้แต่งงานหรอก คือใครเข้ามาไม่ได้เลย พอเป็นพี่อ๊อดปุ๊บ คุณพ่อเปิดประตูรับเลย คือชอบเลย ปั๊กก็ขอบคุณคุณพ่อมาก ๆ เลยที่เลือกสิ่งดี ๆ ให้ปั๊ก

คุณอ๊อด : ทุกคนในครอบครัวต้อนรับผมดีมาก เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักทุกคนเลยครับ

คุณปั๊ก : เรียกว่าพี่อ๊อดเป็นคนเดียวที่บ้านนี้เปิดรับก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ปั๊กมีแฟนมา ไม่มีใครชอบแฟนปั๊กสักคนเลย ยกเว้นพี่อ๊อดนี่ล่ะ (หัวเราะ)

แต่งงานกันมากี่ปีแล้วคะ, มีลูกกี่คนเอ่ย

คุณปั๊ก : ลูก 3 คน ผู้หญิง 2 คน คนโตผู้ชาย ไป ๆ มา ๆ คนโตปีนี้ 36 แล้ว เผลอแป๊บ ๆ เราแต่งกันมาครบ 37 ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อเนอะ คุณปั๊กหันไปพยักเพยิด กับคุณอ๊อดที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ

เคยมีปัญหาหนักๆ กันบ้างไหม, แล้วมีวิธีปรับความเข้าใจกันอย่างไรคะ

คุณปั๊ก : ไม่มีนะคะ

คุณอ๊อด : เราเป็นคนไม่เอาอะไรมาสะสม ถ้าเกิดอะไรที่มันไม่ดี พอจบไปแล้วก็ไม่เก็บมาคิดซ้ำ

คุณปั๊ก : เพราะพี่อ๊อดเป็นคนดีด้วย อย่างนี้เลยไม่มีปัญหา เพราะไม่เคยทำให้เราเครียดเลย อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข มีปัญหาก็ช่วยแก้ อะไรผ่านไปก็คือจบไม่พูดถึง อดีตเลิกพูด เอาใหม่วันพรุ่งนี้ ไม่มีการบ่น เลยไม่มีเรื่องเครียด

เคยคิดสนุก ๆ มองตัวเองในอีก 10-20 ปีข้างหน้าไหมคะ ว่าต่อไปในอนาคตจะเป็นยังไง

คุณปั๊ก : เวลาผ่านไปเร็วจนเรากลัว เราเลยทำทุกวันให้มีความสุข

คุณอ๊อด : คิดว่าอีกแป๊บเดียวเราก็จะ 70 แล้ว อีกไม่นานก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องจากอีกคนนึงไป สงสัยผมคงไปก่อนเพราะสุขภาพเขาดีกว่า

คุณปั๊ก : พอเวลาเขาพูดแบบนี้ทีไรเราจะร้องไห้ทุกที ไม่หรอก ไปด้วยกัน ๆ อีกอย่างจะอยู่ยังไงเพราะไปไหนด้วยกันตลอด สนิทกัน คุยกันเหมือนเพื่อนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่อยากนึกภาพตอนนั้นเลยจริง ๆ ค่ะ

แนะนำลูกหลานหรือคู่รักใน Gen นี้หน่อยค่ะว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตคู่มีความสุข

คุณปั๊ก : ต้องเข้าใจกัน มีความซื่อสัตย์ต่อกัน อันนี้สำคัญ อย่าไปจู้จี้จุกจิกระแวงอะไร มันทำให้ความรักจืดจาง ทะเลาะกันบ่อยๆ ก็ไม่ดี

คุณอ๊อด : ต้องเป็นตัวของตัวเองก่อน อย่าไปแอคติ้ง เป็นยังไงก็เป็นยังงั้นให้เห็นกันไปเลย ไม่ใช่ตอนแรกจะจีบเขา เราเปลี่ยนนิสัยให้เหมือนที่เขาอยากให้เราเป็น พออยู่ไปนาน ๆ เป็นอีกคนนึง มันก็ทนไม่ได้ แต่เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกจนถึง ณ วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม มันก็เหมือนกับแต่งงานกันเมื่อวานนี้เองจุดนี้คุณปั๊กถึงกับร้องว้าย ระเบิดเสียงหัวเราะแบบเต็มที่

คุณปั๊ก : บางทีคุยกับเขาแบบโรแมนติก เป็นฟีลจีบ ๆ กัน ซึ่งเขาก็อายนะจนถึงทุกวันนี้ก็ยังอายอยู่ เหมือนบางครั้งเราไม่ได้เจอกันนาน ๆ พอหายไปนาน ๆ กลับมาเจอกันอีกที ก็แกล้งขำ ๆ ว่า Who are you?, Who are you? คุณเป็นใครคะเนี่ย? ก็แซว ๆ กัน ก็จะมีโมเมนต์เขิน ๆ กัน แกล้งแซวเยอะจนเขาอายแก้มแดงก็มีอยู่บ่อยไป แต่บอกไม่ได้นะว่าพูดว่าอะไร (หัวเราะ)

คุณปั๊ก : คิดว่ามีส่วนค่ะ พี่อ๊อดเขาชอบของเก่ามาแต่ไหนแต่ไร ปั๊กก็ชอบบ้าง แต่พอมาอยู่ด้วยกันเราเลยเห็นคุณค่าในของที่เราสะสม เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นบ้าด้วยกันทั้งคู่เลย (ยิ้ม) อย่างพี่อ๊อดตอนนี้คือชอบต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ความสุขคือได้รดน้ำต้นไม้

คุณอ๊อด : เคยซื้อต้นไม้แพง ๆ ตอนนี้เหลือราคาไม่กี่บาท ก็ไม่ได้ไปเครียดกับมัน ไม่ต้องมากังวลว่าหูย ลงทุนไปเป็นล้าน ตอนนี้กอนี้เหลือแค่พันสองพัน ตอนนี้รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้คิดว่าโอ๊ยทำไมเราโง่อย่างงี้ ไม่ได้คิดอย่างนั้น

ส่วนคุณปั๊ก สมัยก่อนชอบสะสมกระเป๋า รองเท้า แต่ตอนนี้เธอกลับสนุกกับการสะสมจานชาม ผ้าปูโต๊ะ แก้วกาแฟสวย ๆ แทน

คุณปั๊ก : ตอนวัยรุ่นเราก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ มันตามวัยจริง ๆ พอเพื่อนมาบ้านมีจานชามสวย ๆ เราก็มีความสุข ส่วนต่างหู สร้อย น้ำหอม ยิ่งพี่อ๊อดเป็นนักสะสมเหมือนกัน ยิ่งทำให้เรา appreciate กับพวกนี้ยิ่งขึ้นไปอีก ไปไหนเจอน้ำหอมไม่ได้ เจอขวดสวย ๆ เป็นต้องซื้อมาเก็บสะสม ชอบอยู่แล้วก็ยิ่งชอบเข้าไปอีก

วันหยุดทำอะไรกันคะ

คุณอ๊อด : ก็หาของสะสมเพิ่ม (หัวเราะ) ไม่ก็ลูกพาเที่ยว ก็จะพาไปร้านแนวที่พ่อแม่ชอบ อย่างบางร้านพอไปก็ได้คุยกับเจ้าของร้านจนกลายเป็นเพื่อนกันก็มีเยอะ

สุดท้ายนี้ นิยามความรักของคุณอ๊อดและคุณปั๊กคืออะไรคะ

คุณปั๊ก : ความรักคือความเชื่อใจกัน ไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่จุกจิก ไว้ใจ พี่อ๊อดเป็นคนดีเลยทำให้เราไว้ใจ ทำให้ความรักไม่มีปัญหา เป็นคนดี เราไว้ใจได้ตลอดเวลา ทุกเรื่อง ไม่มีความลับต่อกัน ทำให้เรามีความสุข

คุณอ๊อด : ผมว่าความรักเหมือนกับเรามีอะไรก็แชร์ให้เขา อย่างผมมีเงินเท่าไหร่ ก็ให้เขาหมดเลย จนผมไม่มีตังค์ติดกระเป๋า (ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน) ผมให้เขาหมดทุกบาททุกสตางค์

จนถึงตอนนี้คุณปั๊กเสริมทันทีว่า “เข้าใจหรือยังล่ะว่าทำไมถึงมีความสุข” (ยิ้มกว้าง)

คุณปั๊ก : อีกอย่างเวลาเราแซวกัน เราคุยกันหวาน ๆ ลูกก็จะแบบ อูย ฟังไม่ได้ เลี่ยน (หัวเราะ) เรียกว่าก็ยังจีบกันจนถึงทุกวันนี้

คุณปั๊กปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

GSK ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่านและเราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความระมัดระวัง
หากท่านต้องการทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บ และวิธีการที่เราเก็บข้อมูลเหล่านั้น ท่านสามารถศึกษาได้จาก ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว