หากใครได้ติดตามข่าวสารเรื่องวัคซีนคงพอจะคุ้นเคยกับชื่อของ ‘นพ.นคร เปรมศรี’ กันเป็นอย่างดี ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผู้ขับเคลื่อนให้วัคซีนเป็นวาระแห่งชาติของประเทศไทย
หากว่ากันตามบทบาทในฐานะผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ. นคร นั้นเต็มที่ในทุก ๆ มิติ ส่วนนอกเหนือเวลาทำงาน ก็เต็มที่ในการดูแลตัวเองไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์สุขเสรีที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพใจและกายที่ต้องดูแลควบคู่กันไป
ปิดสวิตช์การทำงานให้เป็น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อถามถึงตัวตนเวลาทำงาน และนอกเวลาทำงานนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง นพ. นคร ได้มอบคำตอบที่ชวนให้กลับไปขบคิดต่อ
“ชีวิตคนเราเวลาทำงานก็ต้องทำตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ การเป็น ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติก็ต้องมีความรับผิดชอบ ทั้งการบริหารองค์กร การประสานการทำงานกับเครือข่าย การคิด การวางยุทธศาสตร์การพัฒนา ซึ่งเราต้องมีหน้าที่ที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงได้ แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ด้วยตัวผู้อำนวยการเพียงคนเดียว ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถ มีเครือข่ายการทำงานกับอาจารย์และนักวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ต้องอาศัยการร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน”
“ถ้านอกเวลาก็เหมือนคนธรรมดาครับ งานอื่น ๆ อย่างงานบ้าน ก็ต้องทำนะครับ ผมว่าชีวิตหลังเลิกงานทุกคนก็มีเวลา Free Time ก็เป็นช่วงที่ดีที่ไม่ต้องแบกภาระความเป็นผู้อำนวยการอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องหาเวลาที่ต้องปลดหมวก ปลดภาระลงบ้างเหมือนกัน”
ไลฟ์สไตล์ขับเคลื่อนชีวิต
นอกเหนือจากการทำงาน ชีวิตปกติในวันพักผ่อนของผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ คือการให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมความแข็งแรงทั้งกายและใจ
“ถ้าว่างก็ออกกำลังกาย ถ้าย้อนไปตอนอายุน้อย ๆ ยังหนุ่มสาวอยู่ก็ยังพอเล่นบาสเก็ตบอลได้บ้าง แต่พอสูงอายุก็ได้แต่วิ่งอย่างเดียว จ็อกกิ้งก็พอทำให้ร่างกายได้แข็งแรงอยู่บ้าง เป็นจ็อกกิ้งระยะสั้นระยะกลางบ้าง แล้วแต่ว่าจะมีเวลามากน้อยขนาดไหน ก่อนหน้านี้ยังวิ่งระยะไกลได้ ยังวิ่งมาราธอนได้ หลัง ๆ ได้แค่ 10 กิโลก็รู้สึกเริ่มเหนื่อย (หัวเราะ) แต่ก็พยายามจะวิ่งให้ได้เรื่อย ๆ
“อีกเรื่องคือการปลูกต้นไม้ ส่วนตัวไม่ได้ชอบเลี้ยงสัตว์เลยเลือกปลูกต้นไม้แทนเพราะภาระน้อยดี ไม่ต้องดูแลมาก แต่ก็ต้องดูแลอยู่ดี (หัวเราะ) ผมว่าธรรมชาติมันช่วยให้เราได้พักผ่อนไปในตัว เคยมีคนพูดว่าการได้เห็นสิ่งมีชีวิตเติบโตไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ก็เป็นความสุขหนึ่งของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง จากตัวเล็ก ๆ กลายเป็นตัวโต ๆ หรือการที่เรามีลูกมีหลาน ก็เป็นความสุขอย่างนึงนะ ผมเห็นว่าผู้สูงวัยบางคนแค่เลี้ยงหลานก็มีความสุขแล้ว
“ผมว่าการปลูกต้นไม้ การได้เห็นการแตกใบอ่อนของต้นไม้ การเห็นดอกไม้ที่เริ่มจากดอกเล็ก ๆ จากดอกตูมเป็นดอกบาน ทั้งหมดเป็นเรื่องของการได้เห็นการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่งครับ”
เกมเชื่อมใจ สายสัมพันธ์ระหว่างคน 2 Gen
ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายและการปลูกต้นไม้เท่านั้นที่เป็นสิ่งชุบชูจิตใจให้ นพ.นคร Active ทั้งกายและใจ แต่การเล่นเกม ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยมอบความเพลิดเพลินไปพร้อม ๆ กับการสานความสัมพันธ์ในแบบพ่อ - ลูก
“ว่าง ๆ ก็มีดูหนัง ฟังเพลง แอบเล่นเกมบ้าง เพราะเห็นลูกชายเล่น ก็เล่นตามบ้าง ก็มีความสุขตามวัยตามยุคสมัยนะครับ ได้เล่นเกม ได้พูดคุยกับลูกบ้าง ก็จะได้มีหัวข้อในการสนทนา เค้าฟังเพลงอะไรเราก็ขอฟังบ้าง เราจะได้ไม่ตกยุค ก็จะได้มีจังหวะในการพูดคุยกับวัยของเขาได้ ข้อดีคือเราได้รู้จักเพลงใหม่ ๆ หนังใหม่ ๆ ซีรีส์ใหม่ ๆ วัยรุ่นเค้าชอบดูอะไรกัน เราก็ขอดูกับเขา ทั้งนี้จะทำให้เราได้มีหัวข้อในการสนทนา จะพูดคุยแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว เรื่องงานอย่างเดียวมันก็คงดูจะเครียดเกินไป ก็ต้องทำให้ชีวิตมีสิ่งบันเทิงบ้าง มีงานอดิเรกบ้าง มีชีวิตชีวาบ้าง
“ในช่วงวัย 50 ผมเชื่อว่าทุกคนแบกภาระงานกันอยู่ อยู่ในวัยที่ต้องรับผิดชอบเยอะกันทุกคน การหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง หาจุดที่เราพอจะมีความสุข ได้พักผ่อนหย่อนใจก็น่าจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นครับ”
แชร์ทริคดูแลตัวเองให้ Active ทั้งร่างกายและจิตใจ
“ผมยึดหลักว่า จิตใจต้องดี ใจที่ดีคือใจที่สงบร่มเย็น หมายถึงเราไม่ทุกข์ร้อน ถ้าใจที่ต้องการมากจะมีความอยากได้ ความอยากมี ความอยากเป็น นำมาซึ่งความทุกข์ตามมา ใจจึงสำคัญ ฟังธรรมบ้าง ฟังพระบ้าง ก็ได้ศึกษา วิเคราะห์ ปฏิบัติตามท่านบ้าง ก็ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น จะนำความสงบร่มเย็นมาสู่ในใจ พอใจร่มเย็นปุ๊บ กายก็จะแข็งแรงไปด้วย
“หลังจากที่ได้บำรุงใจให้แข็งแรงแล้ว ก็ต้องมารักษาร่างกายให้แข็งแรงด้วย ทั้งกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็นต่าง ๆ ให้มีความแข็งแรงยืดหยุ่น วัยเราก็จะต้องอาศัยการออกกำลังกายบ้าง อย่างในบทบาทของผม ประชุมก็เยอะ ทำให้มีกิจกรรมทางกายน้อยไปหน่อย จึงต้องออกกำลังกายให้ได้เหงื่อบ้าง ทั้งหมดคือรักษาให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พองานสำเร็จก็มีความสุข ก็กลับมาหาใจเราที่มีความสุขอีก วนเป็นวงจรที่มีความสุขทั้งทางกายและใจ งานก็สำเร็จ คนก็สำราญ ทุกอย่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน”
ความสุขของวัย Gen ยัง Active คือการส่งต่อความสุขแบบไม่สิ้นสุด
“ผมคิดว่าสำหรับคนวัยนี้ ความสุขคือการที่เราได้ทำอะไรบางอย่างให้กับสังคมและคนรอบข้าง จริงอยู่ที่การทำอะไรให้ตัวเองอย่างไรมันก็มีความสุขอยู่แล้ว แต่มันจะไม่อิ่มใจ แค่ตอบสนองความต้องการของเราเท่านั้น ความอิ่มใจมันเกิดจากการที่ได้ทำประโยชน์ให้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หน่วยงาน สังคม และประเทศ ทั้งหมดจะส่งผลให้เราอิ่มใจ อิ่มใจแล้วจะมีความสุข พอมีความสุขปุ๊บ ก็จะเกิดแรงในการทำต่อ
“อาจารย์วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร อาจารย์หมอท่านบอกว่า ศักยภาพมนุษย์มีไม่จำกัด ถ้าเราใส่แพสชันลงไป ใส่ความปรารถนาที่อยากจะทำลงไป ความพยายามก็จะเกิด เมื่อความพยายามเกิดก็จะมีความเอาใจใส่ ความอุตสาหะ ความเอาจริงเอาจังกับเรื่องนั้น ๆ ก็ทำให้เราทำได้ อันนี้เจอกับตัวเอง ผมสามารถวิ่งมาราธอนได้ ไม่เคยคิดว่าเราจะวิ่งได้ขนาดนั้น จริง ๆ ก็ไม่แปลกเท่าไหร่เพราะใคร ๆ ก็วิ่งได้ แต่สำหรับผม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้เราภาคภูมิใจ อิ่มใจ เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ที่ว่าชีวิตคนเรา ถ้าเราจะหาความสุข บางทีก็เกิดจากการที่เราทำได้สำเร็จ และทำประโยชน์ให้กับคนรอบข้าง เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อส่วนรวม”
ทั้งหมดทั้งมวล คือ “ความสุขและความอิ่มเอมใจ” ที่ช่วยขับเคลื่อนกายและใจให้ ‘นพ.นคร เปรมศรี’ สุขเสรีได้ในแบบที่เป็นตัวเองอย่างแท้จริง