หากใครได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวจังหวัดลำพูนในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ คงต้องเห็นพ้องต้องกันว่าเดี๋ยวนี้จังหวัดลำพูนเปลี่ยนแปลงไปมาก เกือบจะต้องล้างภาพจำจังหวัดเล็ก ๆ เงียบสงบและดูเหมือนว่า “ไม่เห็นมีอะไร” เป็นเพียงทางผ่าน หรือเคยมองผ่านก่อนจะมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดที่ใหญ่กว่า คึกคักกว่า ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างเชียงใหม่หรือลำปาง
แต่ทุกวันนี้จังหวัดลำพูนก็ดูจะไม่ลำพังอีกต่อไป เพราะมีการผลักดันโครงการดี ๆ ที่น่าสนใจมากมายอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มคนที่รักจังหวัดลำพูน และที่ขาดไม่ได้คือ การสนับสนุนโครงการผ่านนายกเทศมนตรีที่มีไฟและมีใจรักที่จะปรับปรุงและพัฒนาจังหวัดลำพูนให้เป็นเมืองต้นแบบในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการเน้นปรับปรุงให้เป็นเมืองที่เหมาะสมและอยู่สบายสำหรับผู้สูงอายุในจังหวัดลำพูน ซึ่งนับเป็น ‘บ้านเกิด เมืองนอน’ ของ ‘นายกบุ่น-ประภัสร์ ภู่เจริญ’ นายกเทศมนตรีจังหวัดลำพูนนั่นเอง
สุขภาพอนามัยที่ดีและวิถีชีวิตที่เหมาะสมของผู้สูงอายุในพื้นที่คือเรื่องจำเป็นเร่งด่วน
“เรื่องที่ผมให้ความสนใจเร่งแก้ไขปรับปรุงคือ เรื่องที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวลำพูนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ อย่างตอนนี้ผมก็ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเพื่อช่วยดูแลปอดของชาวลำพูนจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่มักจะมาทันทีหลังฤดูฝน นอกจากนี้ ก็ยังได้ร่วมวางแผนปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่น ร่มเงา เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และยังจัดการระบบแสงสว่าง กับโครงการ ‘ลำพูน Healing Town’ ที่ทางลำพูนซิตี้แล็บ เทศบาลเมืองลำพูน และบริษัท GSK ได้ร่วมมือกันพัฒนาขึ้นตั้งแต่กลางปี 2566” นายกบุ่นกล่าว
ถึงตอนนี้หากใครมีโอกาสไปเยี่ยมเยียนจังหวัดลำพูนก็จะได้เริ่มเห็นสิ่งดี ๆ ทยอยเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มต้นจากถนนรถแก้ว ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อจุดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของลำพูน จากพระธาตุหริภุญชัยไปจนถึงวัดพระรอดหรือวัดมหาวัน
“ผมค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องการทำเมืองลำพูนให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับคนท้องถิ่น เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวสำหรับผู้มาเยือน และยังต้องแปลงให้เป็นเมืองต้นแบบที่ทำให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้อย่างสบายด้วย เพราะตอนนี้ในเขตเทศบาลลำพูนเองนั้น มีประชากรประมาณ 11,000 คน มีผู้สูงอายุนับเป็นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมดแล้ว นับว่าสูงมาก ในขณะที่มีคนวัยทำงานหรือวัยเด็กอยู่เพียง 2,000 คน ดังนั้นผู้สูงอายุซึ่งเป็นประชากรหลักนั้นจึงควรได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขสบาย มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นสำหรับผู้สูงอายุอยู่เป็นประจำเพื่อไม่ให้เหงา มีพื้นที่ให้ได้ออกกำลังกาย และมีถนนหนทางที่สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ทางเทศบาลลำพูนเองก็มี ‘คลินิกอบอุ่น’ ที่มีแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ จากกองสวัสดิการให้ยืมเพื่อใช้ดูแลผู้สูงอายุ หรือคนเจ็บป่วยด้วย”
หวังจะเห็นถนนรถแก้วเป็น ‘ปอดของเมืองลำพูน’
นายกบุ่นมองเห็นภาพผู้สูงอายุและเด็กมาใช้เวลาร่วมกันที่ถนนรถแก้วเมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จ และมีความคาดหวังที่จะให้เป็นโมเดลให้กับถนนเส้นอื่น ๆ ของจังหวัดลำพูน เพื่อให้คนลำพูนทุกวัยอยู่ก็ได้หายใจก็สะดวก โดยจุดมุ่งหมายสุดท้ายคือ ให้ประชากรลดการทิ้งถิ่นฐานไปหาบ้านที่อื่น ทำให้เมืองไม่เงียบ มีช่องทางทำมาหากินในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง พร้อมใช้เวลาอยู่และดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวอย่างมีคุณภาพ
ใช้ยุทธศาสตร์นำเทศกาลผลักดันเศรษฐกิจ
“ตอนนี้ผมก็ใช้เทศกาลต่าง ๆ ที่น่าสนใจมาดึงให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเพื่อจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชาวลำพูน เทศกาลหลัก ๆ ที่น่าสนใจของเราก็จะมีเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลสลากย้อม ซึ่งมีการประดับประดาต้นสลากสวยงาม จัดเป็นเทศกาลหนึ่งเดียวในโลก หรือเทศกาลโคมแสนดวงที่จะมีการถวายโคมและประดับโคมในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงวันลอยกระทงซึ่งสวยมาก ๆ เรามีเทศกาลไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและส่งเสริมกิจกรรมภายในจังหวัดของเรากันเองด้วย
“ส่วนนักท่องเที่ยวในฝันของผมคงเป็นคนที่ชอบการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นนี่แหละครับ และผมยังอยากเห็นนักท่องเที่ยวเลือกมาเดินเที่ยวชมเขตตัวเมืองลำพูน แวะจุดโน้นจุดนี้ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็แวะคาเฟ่ที่มีให้เลือกมากมาย เพราะเมืองของเราเป็นเมืองขนาดเล็กที่สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบาย ๆ แถมยังได้ช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกทาง”
กิจกรรมผ่อนคลายสไตล์ 50+ ของนายกบุ่น
“หากมีเวลาว่าง ผมมักรวมตัวกับเพื่อนๆ ไปเที่ยว ‘ทุ่งกิ๊ก’ ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าของจังหวัดลำพูนครับ ไปถึงก็กางเต้นท์ พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าถึง จะได้ปล่อยวางจากโลกโซเชียลแล้วดึงตัวเองกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างเต็มที่ หรือการพักผ่อนอีกอย่างที่ผมชอบทำก็คือการปลูกต้นไม้ ลงสวนเอง บ้านของผมที่ลำพูนก็เป็นบ้านไม้ จัดเป็นบ้านอนุรักษ์หลังหนึ่งนะครับ” (หัวเราะเบาๆ พร้อมเปิดรูปบ้านไม้หลังงามให้ชม)
เมื่อถามว่าเหนื่อยบ้างไหมกับตำแหน่งนายกเล็กของจังหวัดลำพูน นายกบุ่นตอบอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องคิดว่า “ผมไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยครับ เพราะคิดเสมอว่านี่คือ ‘บ้าน’ ผมจึงมีความรัก ความผูกพัน ความรู้สึกถึงความเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของจังหวัดลำพูนมาช่วยขับเคลื่อนให้ทำงานและผลักดันโครงการต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข สนุกทุกวัน ก็เราต้องอยากทำให้บ้านของเราน่าอยู่ และอยู่สบายที่สุดไม่ใช่เหรอครับ” นายกบุ่นปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม