ใครว่า 50+ แล้วจะใช้ชีวิตให้แฮปปี้และมีอิสระแบบ ‘สุขเสรี’ ไม่ได้ ชวนชาว Gen ยัง Active มาเปลี่ยนแนวคิดให้ชีวิตแอคทีฟ กับ ‘ครูเหมา - เสาวนีย์ ใจดี’ เจ้าของเพจ ‘ครูเหมา โยคะวัยเก๋า’ ที่แม้ปีนี้จะอายุ 77 ปีแล้ว แต่ยังแจ๋วทั้งเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมไปถึงมุมมองการใช้ชีวิตที่เชื่อว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” ด้วยการเริ่มต้นอาชีพครูสอนโยคะในวัย 60 เพื่อแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลตัวเอง พร้อมมอบพลังบวกให้ทุกคนกล้าลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
ความสุขไม่มีเกษียณ เพราะชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
“ครูเหมาไม่เคยคิดจะให้ตัวเองเกษียณ เพราะมีความรู้สึกว่าวัยเกษียณไม่มีจริงหรอก มนุษย์เป็นคนกำหนดเอาเองว่าอายุเท่านี้จะต้องเกษียณ สำหรับครูเหมา ถ้ายังแข็งแรง ยังมีสมองที่ดี ครูเหมาจะไม่หยุดทำงานเลย สมมติอยู่ได้ถึง 100 ปี ก็จะทำงานไปถึงอายุ 100 ปี
ก่อนหน้ามาเป็นครูสอนโยคะ ก็ทำงานออฟฟิศมาตลอด จนกระทั่งมาตั้งบริษัทของตัวเองเกี่ยวกับ Tele Marketing ซึ่งครูเหมาเป็นคนแรกที่เอาเข้ามาในประเทศไทย พอทำได้สัก 4-5 ปี ก็รู้สึกว่ามันเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ในที่สุดก็รู้สึกว่าอยากทำอะไรที่สามารถทำด้วยตัวเองคนเดียว
พอปิดบริษัทก็ตัดสินใจว่าอยากไปเป็นครูสอนโยคะ ช่วงนั้นน่าจะอายุใกล้ ๆ 60 นะ ก็บินไปเรียนเป็นครูที่อินเดียเลย ครูเหมาอยากไปถึงแหล่ง และติวเข้มอยู่เป็นเดือน ๆ ส่วนเหตุผลที่ชอบโยคะ ต้องย้อนกลับไปตอนสาว ๆ ครูเหมาเล่นกีฬาหนักมาก ทั้งวินเซิร์ฟ วอเตอร์สกี ว่ายน้ำ แล้วก็ชอบกีฬาที่เล่นได้คนเดียว
จนกระทั่ง 30 ปีที่แล้ว ได้รู้จักกับโยคะ แล้วก็เล่นมาเรื่อย ๆ เพราะโยคะให้ทุกอย่างเลย ทั้งร่างกาย จิตใจ ความยืดหยุ่น ความแข็งแรง อย่างเมื่อเดือนที่แล้ว ครูเหมาไปหัดเล่นสกีหิมะที่ฮอกไกโด มันหนักมากเลยนะแต่สนุก ถ้าไม่ได้โยคะคงเดี้ยงไปแล้ว ถึงได้รักโยคะเพราะมันสุดยอดแล้ว”
พร้อมปรับตัวให้เท่าทันโลก และแบ่งปันกับผู้อื่นเสมอ
“ตอนแรกเปิดโรงเรียนสอนโยคะอยู่ 5-6 ปี แล้วโดนเอาสถานที่คืน เลยตัดสินใจรับสอนส่วนตัว ตอนนั้นคิดว่าจะมีอะไรที่ช่วยให้ครูเหมาสร้างประโยชน์ให้คนอื่นมากกว่านี้ไหม แต่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำออนไลน์เพราะไม่ถนัด แต่พอช่วงโควิด การสอนแบบออนไลน์ตอบโจทย์ที่สุด เลยตัดสินใจว่าลองดู ทั้งที่ก็ทำอะไรไม่เป็นเลย กดไลฟ์ยังไม่เป็นต้องเรียนรู้ใหม่ จนเดี๋ยวนี้ตัดต่อคลิปจากมือถือเองได้ คลิปที่ลงเพจก็ถ่ายที่บ้านทั้งนั้น แต่ก็ยังต้องเรียนเพิ่มเติมอีก
ซึ่งการทำออนไลน์นั้นประสบความสำเร็จเร็วมาก จนเหมือนกลายเป็นงานหลัก แต่ครูเหมาก็ยังรักที่จะไปสอนโยคะส่วนตัว ชอบเจอนักเรียนแล้วได้ interact กัน มันสนุกกว่า แต่ว่าออนไลน์ก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่ง เพราะแทนที่จะสอนส่วนตัวได้ 7-8 คน แต่ถ้าเป็นออนไลน์ก็ให้คนอื่นได้เยอะ มีแฟนเพจจากเมืองนอกหลายประเทศเลย รู้สึกว่าเราให้ประโยชน์กับผู้คนมากขึ้น”
เคล็ดลับชะลอวัยในแบบฉบับ ‘ครูเหมา โยคะวัยเก๋า’
“ร่างกายในวัยนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยค่ะ (หัวเราะ) คือไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่ เพราะจริง ๆ แล้วจะแก่หรือไม่แก่ก็อยู่ที่ 1. ความคิดของเรา 2. ร่างกายเราพร้อมที่จะไม่แก่ ถ้าไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไปตรวจสุขภาพแล้วไม่มีโรคของคนสูงวัย กล้ามเนื้อแข็งแรง บวกกับความคิดที่ว่ายังไม่แก่ ยังสวย ยังแข็งแรง และลุกขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับผู้คนได้ นี่คือสิ่งที่ครูเหมาคิด
การดูแลตัวเองของครูเหมา คือ ไม่กินระหว่างมื้อ เหมือนทำ IF ระหว่างมื้อจะไม่กินอะไรเลย เน้นดื่มน้ำ ไม่ใช่ว่ากินน้อยนะก็กินมากเท่าเดิม แต่จะไม่กินไขมันเลว Junk food น้ำตาล จะเลือกกินแต่อะไรที่เป็นไขมันดี รวมถึงผักผลไม้ที่ให้ประโยชน์ อาจมีบ้างเวลาออกไปกินข้าวกับลูก เขาสั่งเค้กอะไรมาก็กินได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลี่ยงน้ำตาล เพราะน้ำตาลทำให้เซลล์อักเสบ”
“ส่วนโยคะก็ช่วยชะลอวัยอยู่แล้ว เขามี Science Research เป็นข้อมูลเชิงลึกเลยว่า คนที่ฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ ‘เทโลเมียร์’ ซึ่งเป็นหมวกหุ้มปลายโครโมโซมไม่หดสั้น เพราะถ้าอายุมากมันจะหดลง ๆ และทำให้เหี่ยว ดังนั้น สังเกตไหมว่า คนเล่นโยคะจะหน้าใสปิ๊งและดูไม่แก่ อย่างน้อยก็อ่อนกว่าวัย 10 - 20 ปี รวมถึงความคิดความอ่าน ความจำก็เหมือนคนหนุ่มสาว เวลาพูดเสียงจะไม่สั่น ไม่เกิดโรค ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคนอนไม่หลับต่าง ๆ อันนี้คือข้อดีของโยคะเลยค่ะ”
อย่ากลัวแก่…แต่จงกลัวที่จะไม่ได้ใช้ชีวิตให้มีความสุข
“ครูเหมาคิดว่า อย่ากลัวแก่ แต่จงกลัวที่จะไม่ได้ลองใช้ชีวิตให้มีความสุข บางคนคิดว่าตัวเองแก่ เลยไม่กล้าทำนู่นนี่ อยากจะบอกว่า ถ้าอยากทำอะไรทำเลย ครูเหมาไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่ มันจะแก่ก็ไม่เป็นไรนี่ สภาพสังขารก็เป็นไปตามอายุ แต่ข้างในจิตใจ ความคิดความอ่าน และตัวตนของเรายังสาวอยู่
ครูเหมายังมีที่ที่อยากไปอีกเพียบ ยังอยากเรียนร้องเพลงแจ๊ส ไปฟังดนตรีแจ๊สที่ชิคาโก เพราะตอนอยู่ที่นั่นได้ฟังแจ๊สเยอะ สนุกมาก! บอกลูกว่าจริง ๆ แล้วอยากไปคนเดียว ลูกก็บอกว่า “โอ้…คุณแม่ไปคนเดียวจะอันตรายหรือเปล่า” แต่ว่าไปคนเดียวมันสนุกนะ ดังนั้นอย่าคิดว่าตัวเองแก่ เพราะถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันจะท้อ และไม่กล้าทำสิ่งที่อยากทำมาก ๆ”
“เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ายังไม่แก่ ยังแข็งแรง ยังมีความมั่นใจและรักตัวเอง ยังขับรถออกไปสอนโยคะได้ ยังออกไปชอปปิงเสื้อผ้า ยังมีความรู้สึกเหมือนตอนสาว ๆ ต้องเก็บเกี่ยวความรู้สึกนั้นเอาไว้ ซึ่งมั่นใจในที่นี้คือไม่ใช่มั่นใจจนเกินเหตุ แต่มั่นใจในความแข็งแรงของตัวเอง มั่นใจในความไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มั่นใจในความที่ไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน สิ่งนี้จะทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย
อายุ 50+ นี้ยังเด็กมากนะ ครูเหมาตอนอายุ 50 กว่ายังไปเทรนงานอยู่เมืองนอกอยู่เลย ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกชาว Gen ยัง Active ก็คือ ไม่ว่าคนวัยไหนก็สามารถเรียนรู้ได้หมด อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เพราะสมอง คนเราเมื่ออายุมากขึ้นมันจะเสื่อม เราจึงต้องป้อนให้มันทำงานอยู่เสมอ และต้องคิดเอาไว้เลยว่า เรายังสาวยังสวยยังหนุ่มยังหล่อ อยากทำอะไรลงมือทำเลยจะได้ไม่มานั่งเสียดายทีหลัง แต่การจะทำแบบนั้นได้ ต้องมีสุขภาพที่ดีก่อน”